วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

บียอนด์ มากิ พลัส กับโรคไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ

ภาวะไขมันพอกตับ ใครบ้างที่ต้องระวัง


พญ.วิภากร ชูแสง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารและตับ กล่าวกับ Better Health ว่า “ภาวะไขมันพอกตับในผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือ NAFLD เป็นชื่อเรียกรวมของความผิดปกติที่เกิดกับตับซึ่งเริ่มจากไขมันพอกตับ ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะตับวายและมะเร็งตับ

จะเห็นได้ว่าความผิดปกติและพัฒนาการของโรคเกิดขึ้นเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคตับกลุ่มที่ดื่มสุราเป็นประจำ สิ่งที่น่ากลัวสำหรับภาวะไขมันพอกตับในผู้ไม่ดื่มสุราก็คือผู้ป่วยมักจะไม่ทราบมาก่อนว่าเกิดความผิดปกติกับตับของตนเข้าแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจจะรักษาจนกระทั่งตรวจพบโดยบังเอิญ”

ปัจจุบัน ประเทศไทย พบภาวะไขมันพอกตับได้มากขึ้นตามแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของเมตาโบลิกซินโดรม ซึ่งได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในโลหิตสูงซึ่งมักจะเกิดขึ้นในวัยกลางคนอายุประมาณ 45 ถึง 50 ปีขึ้นไป ที่อัตราการเผาผลาญอาหารเริ่มลดลง

ภาวะไขมันพอกตับ แบ่งระยะการดำเนินโรคได้เป็น 4 ระยะ ได้แก่

  • ระยะแรก เป็นระยะมีไขมันก่อตัวอยู่ในเนื้อตับ ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดผลใด ๆ กล่าวคือ ไม่มีการอักเสบ หรือพังผืดเกิดขึ้นในตับ
  • ระยะที่สอง เป็นระยะที่เริ่มมีอาการอักเสบของตับ ในระยะนี้หากไม่ควบคุมดูแลให้ดี และปล่อยให้การอักเสบดำเนินไปเรื่อย ๆ เกินกว่า 6 เดือนกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง
  • ระยะที่สาม การอักเสบรุนแรง ก่อให้เกิดพังผืดในตับ เซลล์ตับค่อย ๆ ถูกทำลายลง
  • ระยะที่สี่ เซลล์ตับถูกทำลายไปมาก ตับไม่อาจทำงานได้ตามปกติอีกต่อไป ตับแข็ง และอาจกลายเป็นมะเร็งตับ

พญ.วิภากรอธิบายเพิ่มว่า “เนื่องจากโรคตับนั้นเป็นโรคที่มีการดำเนินโรคค่อนข้างช้า กล่าวคือ เมื่อเกิดภาวะไขมันพอกตับแล้ว ไม่ใช่ว่าใช้เวลาแค่ 1 หรือ 2 ปีจะเกิดปัญหา ต้องใช้เวลานานกว่าโรคจะดำเนินไปอีกขั้น เช่น หากมีปัญหาตับอักเสบติดต่อกันนานเกินกว่า 6 เดือน จัดว่าเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง และกว่าที่จะพัฒนาต่อไปเป็นโรคตับแข็งขั้นที่ 1 ก็อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี แล้วจึงค่อยพัฒนาต่อไปเป็นขั้นที่ 2 และ 3 ซึ่งก็จะมีอาการบ่งชี้เพิ่มเติม คือ อาการตัวเหลือง ตาเหลือง มีน้ำในท้องมากขึ้น จนถึงระยะสุดท้ายคือความรู้สึกตัวลดลง อันนี้แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของตับแย่ลง”

สำหรับสาเหตุอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเมตาโบลิกซินโดรม ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ได้แก่ การรับประทานยาบางชนิด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีไขมันมาพอกตับมากขึ้น อาทิ ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยากลุ่มที่เป็นฮอร์โมนทดแทน เป็นต้น

การวินิจฉัย

โดยทั่วไปเมื่อเกิดภาวะไขมันพอกตับขึ้นมา ส่วนมากแล้วจะไม่มีอาการทางร่างกายแต่อย่างใด หรืออาจมีอาการแต่เป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงมากพอที่จะบ่งบอกโรคได้ “ไม่ใช่ว่าผู้ป่วยทุกรายจะมีอาการ บางรายมีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ แทบไม่เป็นที่สังเกต เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เล็กน้อย ตึง ๆ บริเวณใต้ชายโครงขวา ตอนนี้ถ้าตรวจเลือดดูจะพบว่าเอนไซม์ตับผิดปกติ ซึ่งแสดงถึงภาวะตับอักเสบ และเนื่องจากภาวะไขมันพอกตับนี้แทบจะไม่มีอาการ ผู้ป่วยส่วนมากมักจะพบความผิดปกติเมื่อมารับการตรวจสุขภาพประจำปี” พญ.วิภากร กล่าว

นอกจากการตรวจเลือดซึ่งจะทำให้แพทย์ทราบถึงระดับน้ำตาล ไขมัน และค่าเอนไซม์ของตับแล้ว การวินิจฉัยภาวะไขมันพอกตับยังสามารถทำได้โดยการตรวจอัลตร้าซาวด์ ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งการเจาะชิ้นเนื้อตับมาตรวจ ซึ่งจะช่วยประเมินความรุนแรงของโรคได้

การรักษา

แม้ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตับจะมีการดำเนินโรคค่อนข้างช้า แต่การตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะแรกเริ่มก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการให้การรักษาที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วย เป้าหมายของการรักษาอยู่ที่การลดไขมันสะสมและลดการอักเสบของตับในรายที่มีการอักเสบร่วมด้วย เพื่อหยุดยั้งการดำเนินโรคต่อไป

“แม้ว่าแพทย์จะพบการอักเสบของตับจากการตรวจเลือด และพบภาวะไขมันพอกตับจากการทำอัลตร้าซาวด์ แพทย์จะยังไม่สรุปว่าการอักเสบของตับเป็นผลโดยตรงจากภาวะไขมันพอกตับจนกว่าจะตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นไปได้อีก อาทิ ไวรัสตับอักเสบ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง หรือโรคที่มีเหล็กและทองแดงสะสมในร่างกายมากเกินไป หรือการที่ผู้ป่วยรับประทานยาที่มีผลต่อตับ เช่น พวกอาหารเสริม ยาสมุนไพรบางชนิด ซึ่งเมื่อหยุดยาเหล่านี้แล้วการอักเสบของตับอาจหายไปเองก็เป็นได้ แม้ผู้ป่วยจะยังมีไขมันพอกตับอยู่” พญ.วิภากร กล่าว

“ผู้ป่วยที่มีไขมันในตับแต่ไม่ได้มีตับอักเสบก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยา เพียงลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ลดอาหารหวาน อาหารมัน อย่ารับประทานแป้งมาก ไขมันในตับก็จะลดลงไปได้” พญ.วิภากร อธิบาย “ส่วนมากผู้ป่วยที่มาพบหมอ และได้รับคำแนะนำให้กลับไปลดน้ำหนักนั้นจะทำไม่ค่อยได้ 

หมอจึงต้องให้ยาช่วยซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม เช่น ยากลุ่มที่ช่วยเรื่องเบาหวานและลดไขมันในตับร่วมกันซึ่งไม่เหมือนกับยาเบาหวานทั่วไป หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูงก็ต้องได้รับยาที่ช่วยเรื่องความดันโลหิตสูงที่ช่วยลดไขมันในตับด้วย เช่นเดียวกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันในเลือด แต่จะให้ดีที่สุดก็คือ ลดอาหารหวาน ลดอาหารมัน และออกกำลังกายค่ะ”

ลดความเสี่ยง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เนื่องจากสาเหตุหนึ่งของภาวะไขมันพอกตับเกี่ยวข้องกับเมตาโบลิกซินโดรม อาทิ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นความผิดปกติที่สามารถ ควบคุมให้ดีขึ้นได้ ส่งผลให้ภาวะไขมันพอกตับดีขึ้นตามมา

พญ.วิภากรแนะนำแนวทางการป้องกันตัวเอง และลดความเสี่ยงไว้ ดังนี้ 
  • พยายามลดลดน้ำหนักให้ได้ แต่ต้องอยู่ในระดับปลอดภัย เช่น สัปดาห์ละไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม
  • ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะเป็นประจำ
  • ผู้ป่วยเบาหวาน และไขมันในเลือดสูงต้องควบคุมโรคให้ดี ทั้งนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของยา การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย
  • ลด และเลิกการดื่มสุรา ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระให้ตับมากยิ่งขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอาหารเสริมประเภทน้ำมันต่าง ๆ เช่น น้ำมันปลา น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส และสมุนไพรต่าง ๆ
  • ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ เช่น ตรวจดูว่าตนมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบหรือไม่ หากไม่มีควรฉีดวัคซีน มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องทำฟันและทำเล็บ
  • อย่าละเลยการตรวจสุขภาพประจำปี ผู้ป่วยไขมันพอกตับส่วนมากจะทราบเมื่อมารับการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งผลการตรวจแสดงค่าเอนไซม์ของตับ (AST และ ALT) ผิดปกติ (มากกว่า 40)

การดูแลสุขภาพตับ ไม่ได้ต้องการมากไปกว่าการดูแลสุขภาพร่างกายตามปกติดังที่กล่าวข้างต้น มาถึงตรงนี้ไม่ใช่แค่ผู้ดื่มสุราและผู้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเท่านั้นที่ต้องระวังเรื่องภาวะไขมันพอกตับ แม้ผู้ที่มีน้ำหนักปกติแต่มีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูง หรือผู้ที่รับประทานยาและอาหารเสริมอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็อยู่ในกลุ่มที่ต้องระวังให้มากไม่แพ้กัน
 
สัญญาณต่อไปนี้ อาจบ่งชี้ว่าตับของคุณเริ่มมีปัญหา
  • คุณมีน้ำหนักมาก และมีไขมันสะสมที่หน้าท้อง
  • คุณลดน้ำหนักอย่างไรก็ไม่ลง
  • คุณมีระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
  • คุณเป็นเบาหวาน
  • คุณรู้สึกเหนื่อย และอ่อนเพลีย
  • คุณรู้สึกเจ็บตึง ๆ ที่ชายโครงขวา
  • คุณมีอาการเบื่ออาหาร รับประทานอาหารไม่ลงและคลื่นไส้เป็นบางครั้ง

คุณทราบหรือไม่
  • ภาวะไขมันพอกตับพบได้บ่อย โดยในสหรัฐอเมริกาพบประมาณร้อยละ 15 ถึง 20 ของจำนวนประชากร (U.S. Liver Foundation)
  • ในประเทศไทย อัตราของจำนวนผู้ป่วยเบาหวานซึ่งเป็นความเสี่ยงที่สำคัญประการหนึ่งของภาวะไขมันพอกตับที่พบในประชากรที่มีอายุตั้งเเต่ 35 ปีขึ้นไปทั้งเก่าเเละใหม่ อยู่ที่ร้อยละ 9.6 (2547: สถาบันวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน)
  • ผู้ป่วยไขมันพอกตับกว่าร้อยละ 50 ไม่แสดงอาการโดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นไขมันพอกตับระยะแรก (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ)
  • ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อาทิ คนอ้วน ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้มีไขมันในเลือดสูง มีภาวะไขมันพอกตับถึงร้อยละ 90 ในจำนวนนี้ร้อยละ 20 มีอาการตับอักเสบร่วมด้วย และร้อยละ 10 กลายเป็นโรคตับแข็ง (MedicineNet)
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับสามารถฟื้นฟูสภาพตับให้กลับมาดีขึ้นได้ด้วยการลดน้ำหนักลงอย่างน้อยร้อยละ 9 (American Gastroenterological Association)

#############################
มาดูประสบการณ์ผู้ป่วยไขมันพอกตับ ไขมันเกาะตับ ไขมันในตับ ที่ทาน บียอนด์ มากิ พลัส แล้วมาแชร์ประสบการณ์กันครับ

ดีใจสุดๆ ผลตรวจเลือดไขมันเกาะตับ หมอชมตลอด ช่วยบอกวิธีได้มั๊ย? จากการตรวจสุขภาพประจำปี พบการทำงานของตับผิดปกติ 207 ให้เวลา 4 เดือน แล้วมาตรวจอีกครั้งโดยหมอไม่ได้ให้ยามาทาน จึงดื่มมากิพลัสไป 2 ขวดในเวลา 45 วัน มาตรวจค่าตับลดเหลือ 98 และดื่มไป อีก 3 ขวด ครบ 4 เดือน

วันนี้ คุณหมอแซว คุณปุณิกา ยิ้มไม่ฮุบ เลยน๊ะ จะไม่หยุดยิ้มได้ไง การทำงานของตับลดเหลือเพียง 22 แล้วนิ ทุกอย่างลดหมดและไขมันดีก็เพิ่ม เพราะเรามีตัวช่วย อย่างมากิ พลัส อิอิ

‼. (ป.ล.คุณหมอซักใหญ่เลย ถามจริงๆ เถอะบอกหมอหน่อย มีเคล็ดลับอะไรถึงลดได้เร็วเพราะวัยนี้ลดไม่ง่าย)

คุณค่าสารสำคัญในมากิพลัสช่วยส่งเสริมให้เลือดสะอาด ตับแข็งแรง

(ประสบการณ์ส่วนบุคคล ผลลัพธ์จากการใช้สินค้าขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแต่ละบุคคล)




                        

คุณแม่ของเพื่อนเจี๊ยบเองค่ะ ก่อนทานมากิพลัสมีอาการปวดท้องด้านขวา อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลด ตัวซีดเหลือง ผิวหมองคล้ำคล้ายมีอาการไหม้ และขับถ่ายไม่ปกติ(อาทิตย์ละครั้ง) จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกเป็นไขมันพอกตับตรวจครั้งที่สองมีตุ่มที่กระเพาะอาหาร และมีฝ้า ทำให้ยิ่งเครียดและนอนไม่หลับ
ลูกสาวจึงตัดสินใจซื้อมากิพลัสให้ทาน1 คู่ทานเช้า 1 เย็น 1 หลังจากทานช๊อตแรก มีอาการ ถ่ายประมาณ 3 ครั้ง ในปริมาณที่เยอะและกลิ่นแรงมาก แต่ไม่มีอาการอ่อนเพลีย หลับสนิทไม่ตื่นกลางดึก และเมื่อตื่นรู้สึกสดชื่นมีแรงทำงานไม่อ่อนเพลีย หลังจากทานเกือบหมดขวดที่ 2 แม่รู้สึกเห็นสะเก็ดไหม้ดำๆ หลุดออกจากผิว ผิวหน้าสดใสไม่ซีดเหลือง และท้องไม่อืดแล้ว การขับถายถ่ายปกติทุกวัน ไม่อาทิตย์ละครั้งเหมือนแต่ก่อน หลังจากทานได้ 1 เดือน ตอนนี้เริ่มทานเข้าเดือนที่สองแล้วค่ะ
ขอบคุณมากิพลัส

Cr.คุณเปรมฤทัย คราวงษ์



                           
#icareishare 
#คอเลสเตอรอลสูง #ไตรกลีเซอไรด์
#ไขมันLDLสูง #ไขมันเกาะตับ
#maquiplus
คุณแม่ศรีฟ้า
ตราจสุขภาพเดือน มกราคม ผลเลือดไม่ค่อยดีเลย คอเลสเตอรอลสูง ไตรกีเซอไรด์ ไขมันLDLสูง
หมอเขียน comment ว่าเริ่มมีไขมันเกาะตับ แม่เลยดื่ม #มากิพลัส ทุกวัน ต่อเนื่อง ผ่านไป 3 เดือน มีนาคม มาตรวจใหม่ ค่าดีขึ้นทุกตัว แถมหมอบอก \"ไม่มีไขมันเกาะตับ\" แล้ว เย้! สุดยอดเลยค่ะ
ขอบคุณ บียอนด์ มากิพลัส ที่ช่วยดูแล สุขภาพแม่ และ พวกเราทุกคน ในครอบครัว


                         

:)#icareishare #ประสบการณ์ส่วนบุคคล 
#Maquiplus #ไขมันเกาะตับ #เบาหวาน
#สะเก็ดเงิน
เคสคุณแม่จ้อย เจ้าของธุรกิจ @
นครนายกเป็นไขมันเกาะตับ หลังจากทานไป ไขมันเกาะตับก็หายเป็นเบาหวานก็ลดลง สะเก็ดเงิน ดื่มมากิแล้วดีขึ้นค่ะ แผลของสะเก็ดเงินหายดี ขึ้นมาก 
👍👍 ขอบคุณมากิพลัส 🍒🍒🍓🍓🍇🍇🍇









                       

คุณแม่ของน้องสันป่วยเป็นไขมันเกาะตับ ค่าตับเกินปกติมา 242 แม่ทานอะไรไม่ได้ทานแล้วท้องอืดเลยไปตรวจพบค่าตับเกินปกติตามที่บอกข้างต้นว่า ค่าตับ 242 คุณหมอให้การรักษาแบบทานยา และงดทานแป้ง ไขมัน และที่สำคัญต้องออกกำลังกาย แต่พอหนูทราบว่าแม่เป็นไขมันเกาะตับ ก็ให้คุณแม่ทานแต่มากิพลัส และลดแป้งบ้างนิดหน่อย ตอนนี้คุณแม่ทานเช้า 1ช็อท เย็น 1ช็อท เข้าเดือนที่ 3 ค่าตับปกติแล้วค่ะ หน้าใส๊ใส...ขอบคุณ Beyonde Maqui Plus มากๆค่ะ


                     

พี่ศักรินทร์ ผู้รับเหมา อยู่ จ.นครนายก เป็นไขมันเกาะตับและมีสารพิษในตับสูง หลังจากทานมากิพลัสไปแค่ 2 อาทิตย์ ค่าตับดีขึ้น ไขมันน้อยลง จริงๆคุณหมอบอกว่า ถ้าจะดีขึ้นได้ขนาดนี้ ต้องทานยาเป็นปี มากิพลัสดีจริงๆ



                    

ดีใจ ฟุดๆ ผลตราจเลือดไขมันเกาะตับ หมอชมตลอด ช่วยบอกวิธีได้มั๊ย? จากการตรวจสุขภาพประจำปี พบการทำงานของตับผิดปกติ 207 ให้เวลา 4 เดือน แล้วมาตรวจอีกครั้งโดยหมอไม่ได้ให้ยามาทาน จึงดื่มมากิพลัสไป 2 ขวดในเวลา 45 วัน มาตรวจค่าตับลดเหลือ 98 และดื่มไป อีก 3 ขวด ครบ 4 เดือน
วันนี้ คุณหมอแซว คุณปุณิกา ยิ้มไม่ฮุบ เลยน๊ะ จะไม่หยุดยิ้มได้ไง การทำงานของตับลดเหลือเพียง 22 แล้วนิ ทุกอย่างลดหมดและไขมันดีก็เพิ่ม เพราะเรามีตัวช่วย อย่างมากิ พลัส


                    

โรคไขมันเกาะตับ #‎lcarelshare แบ่งปันสุขภาพดีๆสู่สังคม โรคไขมันเกาะตับ กับมากิพลัส เห็นผลดีขึ้นชัดเจนภายใน 1 เดือนวัดผลด้วยการตรวจเลือดจริง หากคุณกำลังเป็นหรือรู้จักใครที่เป็น แนะนำมากิพลัสให้เขาได้ตับที่แข็งแรงคืนมา 
Beyonde Maquiplus เครื่องดื่มแอนตี้ออกซิแดนท์ "เลือดสะอาด ตับแข็งแรง"


                   


ช่วงเดือน ส.ค.ปี 55 พี่โชคร้าย เป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ตั้งแต่นั้นมาก็รักษากับที่ รพ.ศิริราช มาตลอด จนเมื่อเดือน ก.พ.58 หมอตรวจเจอโรคใหม่คือ ไขมันพอกตับ และให้เวลาดูแลและบริหารร่างกาย ควบคุมอาหาร 3 เดือนถ้าไม่หายจะให้ยาสลายไขมัน นับแต่วันนั้น ก็เริ่มทานมากิพลัส เช้า 2 เย็น2 ทานไลฟ์เซ็นเชี่ยลวันละ 1ซอง และทานคอลลาเจนผสมน้ำอุ่นทานทั้งวันเลยง เดือนที่1 ทานมากิหมดไป 4 ขวด ผลตรวจปรากฎว่าจุดที่ปอดที่เป็นมานานหายไป เดือนที่2 ตรวจเซลมะเร็ง ปรากฎว่า ไม่มีแล้ว เดือนที่3 ครบกำหนดตรวจไขมันพอกตับ ปรากฎว่า ค่าตับปกติ ไขมันพอกตับหายแล้ว หมอชมใหญ่เลยว่า ดูแลตัวเองดีมาก ทุกวันนี้ มากิ ออโตชิพ เดือนละ 2 ลัง กินทั้งครอบครัวค่ะ รวมทั้ง คอลลาเจนไลฟ์เซนเชี่ยล


                
Beyonde MaquiPlus
#เครื่องดื่มแอนตี้ออกซิแดนท์
"เลือดสะอาด ตับแข็งแรง"
---------------------------
บียอนด์ มากิพลัส
รสชาดอร่อย เพียงวันละ 2 - 4 แก้วช็อท (เช้า/เย็น)
สุดยอดน้ำผลไม้ที่ดูแลตับ และสุขภาพ
Beyonde Maqui Plus By Unilever
ดื่มได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อสุขภาพที่ดี
✏เดือนละ 2ขวดสำหรับดูแลสุขภาพทั่วไป
✏เดือนละ 4ขวดสำหรับเร่งฟื้นฟูสุขภาพ
✏แนะนำ ให้ดื่มต่อเนื่องอย่างน้อย 3เดือน
เพื่อผลลัพท์ทางสุขภาพที่ชัดเจน
-------------------------------
อย. 10-3-08945-1-0191
ปริมาณขวดละ 750 มล.
1 ขวด ราคา 1,800 บาท
2 ขวด ราคา 3,300 บาท
6 ขวด (1ลัง) ราคา 9,800 บาท
หรือสมัครสั่งต่อเนื่อง 6 เดือน รับฟรีต่ออีก 1 เดือนทันที
******************************************
สนใจสมัครตัวแทนจำหน่าย / สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คุณทุวัน (ทุ)
Tel. 064-697-1979
Line : tuwan_tae

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น