วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

บียอนด์ มากิ พลัส กับโรคไวรัสตับอักเสบ

ไวรัสตับอักเสบบี



ประเทศไทยนับเป็นประเทศหนึ่งซึ่งเป็นถิ่นที่ไวรัสตับอักเสบบีระบาดมาก โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจึงนับว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากไวรัสตับอักเสบบีทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ตับและทำให้เซลล์ตับถูกทำลาย หากเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด ตับแข็ง และมะเร็งตับได้ จากหลักฐานการศึกษาในปัจจุบันบ่งชี้ว่าการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในการเกิดมะเร็งตับ ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทย

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

ไวรัสตับอักเสบบี คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดบี สามารถติดต่อทางเลือด น้ำเชื้อ และน้ำหลั่งอย่างอื่น เช่น น้ำเหลือง โดยสามารถรับเชื้อได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
  • การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
  • การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • การใช้เข็มสักตามตัวหรือสีที่ใช้สักตามตัวร่วมกัน และการเจาะหู
  • การใช้แปรงสีฟัน มีดโกน ที่ตัดเล็บร่วมกัน
  • การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ (ถ้าแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อ 90%)
  • การถูกเข็มตำจากการทำงาน
  • การสัมผัสกับเลือด น้ำเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล
อย่างไรก็ดี เชื้อนี้จะไม่ติดต่อกันทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม การให้นม และการจูบกัน (ถ้าปากไม่มีแผล)

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบบี

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบบี แบ่งได้เป็น 2 ระยะ คือ
  1. ระยะเฉียบพลัน
  • ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการภายใน 1-4 เดือนหลังติดเชื้อ ดังนี้
    • อาการไข้ ตัวเหลืองตาเหลือง ปวดท้องใต้ชายโครงขวา
    • อาการอื่นๆ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ผื่น ปวดข้อ
  • ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรง เกิดจากการที่เซลล์ตับถูกทำลายเป็นจำนวนมาก ในกรณีนี้อาจทำให้เกิดภาวะตับวายได้
  • อาการตับอักเสบระยะเฉียบพลันจะดีขึ้นใน 1-4 สัปดาห์ และจะหายเป็นปกติเมื่อร่างกายสามารถกำจัดและควบคุมเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ ซึ่งมักใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน แต่ผู้ป่วยส่วนน้อย (5-10%) ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้หมด ทำให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
  1. ระยะเรื้อรัง
  • ระยะเรื้อรังแบ่งผู้ป่วยได้เป็น 2 กลุ่มคือ
    • พาหะ คือ ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ผลการตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับอยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้นก่อนแต่งงานหรือมีเพศสัมพันธ์ควรตรวจหาไวรัสตับอักเสบบีก่อน
    • ตับอักเสบเรื้อรัง คือ ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย และตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับผิดปกติ
  • ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่มีอาการ บางรายอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือเบื่ออาหารได้
  • การติดเชื้อแบบเรื้อรังพบบ่อยในเด็กที่ติดเชื้อตั้งแต่แรกเกิด

การวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบบี

  • เจาะเลือดตรวจค่าการทำงานของตับ (liver function test)
  • เจาะเลือดตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
    • HBsAg (แอนติเจนไวรัสตับอักเสบบี): ให้ผลบวก แปลว่า ผู้ป่วยกำลังมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
    • Anti-HBS (ภูมิคุ้มกันต่อ HBsAg): ให้ผลบวก แปลว่า ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยได้รับการฉีดวัคซีนหรือเคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบและหายจากโรคแล้ว ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันจึงไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น และไม่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอีก
    • การวินิจฉัยว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง ต้องเจาะเลือดตรวจซ้ำอีกครั้งที่ 6 เดือนหลังจากวินิจฉัยว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบีแบบเฉียบพลัน หากพบว่าร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ จึงจะวินิจฉัยว่าเป็น “โรคไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
  • การตัดชิ้นเนื้อจากตับไปตรวจ แพทย์จะใช้เข็มแทงผ่านผิวหนังเพื่อเก็บชิ้นเนื้อจากตับ การตรวจนี้ไม่ได้ทำในผู้ป่วยทุกราย ทำเฉพาะในผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังที่ต้องการติดตามการดำเนินไปของโรค เช่น ต้องการทราบภาวะพังผืดในตับและการอักเสบของเซลล์ตับ ซึ่งจะมีผลในการเริ่มต้นการรักษา หรือสงสัยมะเร็งตับ เป็นต้น

การประเมินผู้ป่วยที่ตรวจพบว่ามี HBsAg เป็นบวก

  • ตรวจเลือดประเมินดู HBeAg และ HBeAb ซึ่งเป็นตัวที่บ่งบอกว่าโรคอยู่ในระยะที่ไวรัสกำลังแบ่งตัวหรือผ่านระยะที่ไวรัสแบ่งตัวไปแล้ว
  • ตรวจ ALT (alanine aminotransferase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่อยู่ในเซลล์ตับ ถ้าค่าอยู่ในระดับปกติให้ติดตาม ALT ทุก 3-6 เดือน
  • ในกรณีที่ HBeAg เป็นลบแต่ผู้ป่วยมี ALT ผิดปกติ หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับ เช่น ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี มีภาวะตับแข็งและมะเร็งตับในครอบครัว ตรวจร่างกายพบลักษณะของการมีโรคตับเรื้อรัง ALT อยู่ในเกณฑ์มากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าปกติ อัลตราซาวนด์มีลักษณะผิดปกติของตับ ควรตรวจดูปริมาณไวรัสตับอักเสบบีร่วมด้วย

การรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง

ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีที่สมควรได้รับการรักษา ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีลักษณะดังนี้
  • HBsAg ให้ผลบวกเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
  • มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไวรัสกำลังมีการแบ่งตัวอย่างมาก คือ
    • HBeAg เป็นบวก ปริมาณไวรัสมากกว่าหรือเท่ากับ 20,000 IU/ml
    • HBeAg เป็นลบ ปริมาณไวรัสมากกว่าหรือเท่ากับ 2,000 IU/ml
  • ระดับ ALT มากกว่าหรือเท่ากับ 1.5 เท่าของค่าปกติอย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ยกเว้นในกรณีที่ผู้ป่วยมีหลักฐานว่ามีตับแข็งหรือภาวะตับวาย พิจารณาให้การรักษาถึงแม้จะมี ALT ปกติ ไม่จำเป็นต้องรอห่างกันเกิน 3 เดือน)
  • ต้องไม่มีโรคอื่นที่เป็นสาเหตุหลักของตับอักเสบ
ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังที่มี HBeAg เป็นบวกหรือเป็นลบ สามารถเลือกใช้ยาได้ทุกขนาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยของไวรัสบี ปัจจัยทางผู้ป่วย และระยะของโรค แพทย์จะเป็นผู้อธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงประโยชน์และข้อจำกัดของยาแต่ละชนิดเพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสร่วมในการตัดสินใจเลือกชนิดการรักษา โดยยาที่ใช้รักษาไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังในปัจจุบันมีทั้งชนิดฉีดและชนิดรับประทาน
สำหรับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังที่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา หรืออยู่ในช่วงที่ไวรัสไม่มีการแบ่งตัว ยังไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส แต่ควรได้รับการติดตาม ALT เป็นระยะๆ ทุกๆ 3-6 เดือน ก่อนที่ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังจะได้รับการรักษา ควรได้รับการประเมินและแนะนำอย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงภาวะของโรค โรคร่วม ข้อจำกัด หรือข้อห้ามในการใช้ยา การปฏิบัติตัว ค่าใช้จ่ายในการรักษา และการติดตามระยะยาว

การติดตามผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา

ขณะรักษาผู้ป่วยควรได้รับการตรวจระดับ ALT อย่างน้อยทุก 3 เดือน และ HBeAg อย่างน้อยทุก 6 เดือน ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาฉีดควรได้รับการตรวจทุก 2 สัปดาห์ในช่วง 1-2 เดือนแรก หลังจากนั้นทุก 4-6 สัปดาห์ จนสิ้นสุดการรักษาเพื่อดูอาการข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา ซึ่งรวมถึงการตรวจนับเม็ดเลือด การตรวจการทำงานของไทรอยด์ และอาการข้างเคียงอื่นๆ ในผู้ป่วยที่ได้รับยารับประทานควรตรวจการทำงานของไตและระดับฟอสฟอรัสในเลือดร่วมด้วย
ภายหลังสิ้นสุดการรักษา ผู้ป่วยควรได้รับการติดตามเช่นเดียวกับขณะให้การรักษา ซึ่งรวมถึงการตรวจ ALT ทุก 3 เดือนและ HBeAg/HBeAb (ในกรณีที่ผู้ป่วย HBeAg เป็นบวก) ปริมาณไวรัส อย่างน้อยทุก 6 เดือน ในผู้ป่วยที่การรักษาได้ผลดี คือ หลังหยุดการรักษาแล้วอย่างน้อย 6 เดือนยังมีระดับ ALT ปกติ และมีระดับปริมาณไวรัสต่ำกว่า 2,000 IU/ml และควรติดตามต่อทุก 6 เดือน
ในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีกลับซ้ำหรือไม่ได้ผลจากการรักษา ควรติดตามทุก 3-6 เดือน

การป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

  • ฉีดวัคซีนป้องกัน โดยผู้ที่ควรฉีดวัคซีนมากที่สุดคือ เด็กแรกเกิด สำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่โดยทั่วไปมีความจำเป็นน้อยในการฉีดวัคซีน เนื่องจากส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อแล้ว หากต้องการฉีดวัคซีนควรได้รับการตรวจเลือด ผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้วหรือมีภูมิต้านทานแล้วไม่ต้องฉีดวัคซีน
  • ผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่เป็นพาหะ ควรตรวจเลือดเพื่อทราบถึงภาวะของการติดเชื้อก่อนการฉีดวัคซีน การฉีดวัคซีนต้องฉีดให้ครบชุดจำนวน 3 เข็ม หลังจากนั้นวัคซีนจะกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานขึ้นในร่างกาย

การปฏิบัติตัวเมื่อติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

หากมีการตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแบบเฉียบพลัน ควรขอรับคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง และระมัดระวังการแพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิด โดยวิธีการปฏิบัติตัวหากมีเชื้ออยู่ในร่างกายทำได้ดังนี้
  • ไม่ต้องกังวล หากเป็นตับอักเสบเฉียบพลันชนิดบี เพราะส่วนใหญ่จะหายได้เองและมีภูมิคุ้มกันตามมา
  • รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
  • ไม่ใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • รับการตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพราะการตรวจเลือดจะทำให้ทราบว่าตับมีการอักเสบมากหรือน้อย
  • บอกให้คนใกล้ชิดทราบ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี หากคนใกล้ชิดนั้นไม่มีภูมิและเชื้อ
  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยโดยการสวมถุงยางอนามัย
  • งดบริจาคเลือด
  • ไม่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • พักผ่อนให้เพียงพอทั้งร่างกายและจิตใจ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานทั้งข้าว เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ในปริมาณที่พอเหมาะทุกวัน
  • รับประทานอาหารสุกและสะอาด ลดการรับประทานอาหารไขมันสูง เนื้อสัตว์รมควัน และเนื้อสัตว์ที่ไหม้จนเกรียม หรืออาหารที่เก็บถนอมไว้นานๆ ไม่รับประทานอาหารหรือส่วนประกอบของอาหารที่มีเชื้อราขึ้น เช่น ถั่วลิสงป่นที่เก็บไว้นานๆ อาหารที่ใส่ดินประสิว อาหารหมักดอง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม แหนม ปลาร้า ผักดอง ไส้กรอก เบคอน แฮม ฯลฯ และเครื่องกระป๋องต่างๆ ทั้งนี้อาหารประเภทแหนม ปลาร้า เมื่อจะรับประทานต้องทำให้สุกเสียก่อน เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจส่งเสริมทำให้ตับทำหน้าที่บกพร่องมากขึ้น
  • ควรตรวจร่างกายและตรวจเลือดหาระดับสารบ่งบอกมะเร็งตับ AFP (alpha-fetoprotein) และทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องสม่ำเสมอทุกปีในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีภาวะตับแข็ง เพศชายอายุมากกว่า 45 ปี เพศหญิงอายุมากกว่า 50 ปี และมีประวัติมะเร็งตับในครอบครัว เพื่อหามะเร็งตับในระยะเริ่มแรก อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • เมื่อต้องรับการผ่าตัดหรือทำฟันควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ
  • หญิงตั้งครรภ์และคลอดบุตร ควรฉีดวัคซีนให้บุตรภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
  • ลดความเครียดและความกังวลให้น้อยลง



******************************************************************************

มาดูแชร์ประสบการณ์จากผู้ที่ทานมากิพลัสกันครับ

คุณอนันต์ ก้องเกียรติชัย เป็นโรคไวรัส
ตับอักเสบบี ก่อนดื่มได้รับการตรวจค่าตับ
มีค่าที่ สูงกว่าเกณฑ์ปกติ

หลังดื่มบียอนด์ มากิพลัส เช้า2shot เย็น 2shot
ต่อเนื่องทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นไปตรวจ
ที่ คลีนิกเดิม ค่าการทำงานตับดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
และสั่งมากิพลัส มาดื่มต่อ เพื่อจะให้ค่าการ
ทำงานตับ ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้ยานะคะ
ขอบคุณบริษัท Unilever Network ทีคิดค้น
โปรดักส์ที่ทั้งรสอร่อย และได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ

       
******************************************************************************

พี่ตุ๊ก ทำงานอยู่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ เป็นคนที่เหนื่อยง่าย เพลียง่าย จึงอยากดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พอดีคุณหวายเพื่อนสนิทได้แนะนำให้ทานมากิ พลัส จึงตัดสินใจทาน และหลังจากตรวจเลือด ผลปรากฎว่าค่าตับลดลง จึงประทับใจผลิตภัณฑ์มากิพลัส มากๆ ทานต่อเนื่อง และบอกต่อผู้อื่นด้วยค่ะ”

          ******************************************************************************





พี่หมู (คนสุรินทร์) เมื่อครั้งร่างกายแข็งแรงชอบดื่มสุรา สะสมมาเรื่อยๆ จนเมื่อปี 2555 ตรวจพบว่าป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบซี หมอบอกต้องทำเคมีบำบัด เข็มละ 1 หมื่นบาท จำนวน 60 เข็ม รวม เป็นเงิน 6 แสนบาท ภรรยาแนะนำให้ทานมากิพลัสวันละช็อท 1 เดือน ผลตรวจเมื่อเดือน ม.ค. 2558 ค่าตับจาก 110 และ 207 ลดเหลือ 25 และ 77 อาการดีขึ้นมากๆ จนตัวเองยังตกใจ... ผลิตภัณฑ์ดีจริงๆ





            
******************************************************************************




คุณประสพสุข ธัชสัมฤทธิ์ อายุ 79 ปี มีอาการลิ้นหัวใจรั่วเป็นมา 11 เดือนแล้วทำให้ การหมุนเวียนเลือดไม่สมบูรณ์ เพราะเลือดแดงและเลือดดำ ปนกันเมื่อออกจากหัวใจ ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ไม่มีแรงและทานอาหารไม่ได้ แต่มาโหมกระหน่ำกินมากิมากขึ้น.ประมาณ 4-5 เดือน วันละ 6 ชอต กลับมามีแรง ทานอาหารได้เหมือนปกติ จากที่ผอมมาก กลับมาสดชื่นมีเนื้อมีหนัง ที่สำคัญเลือดของป๊ะสะอาดมากเพราะเลือดที่ผสมออกมาจากหัวใจผ่านตับที่แข็งแรงทำให้เลือดหลังออกจากตับสะอาดมาก ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว คุณหมอยังแปลกใจว่าเลือดดีมาก และไม่เหนื่อยมากเหมือนก่อน ขับรถไปไหนๆได้สบายมาก ขอบคุณมากิ พลัส ที่ทำให้เลือดสะอาด ตับแข็งแรงครับ

         ******************************************************************************

ผลตรวจ 17 มิ.ย. 58
SGOT 67 SGPT 231 GGT 156 ตัดสินใจดื่ม มากิพลัส เนื่องจากรู้ว่าสามารถฟื้นฟูตับ ปกป้องตับ และบำรุงตับได้ พร้อมกับรักษากับหมอตามปกติ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินมากิ พลัส ต่อเนื่อง 2 เดือน
ไปพบหมอเพื่อตรวจอีกครั้ง 25 ส.ค. 58
SGOT 39 SGPT 101 GGT 74 ผลตรวจออกมาดีขึ้นเป็นอย่างมาก จนหมอที่ทำการรักษาแปลกใจว่าไปทำอะไรมา คุณเอ็กซ์จึงดื่มมากิ พลัส ต่อเนื่องมาโดยตลอด
ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค. 59 ผลตรวจออกมามีค่าตับเป็นปกติเหมือนคนสุขภาพดี SGOT 23 SGPT 34 GGT 35

ขอบคุณ มากิพลัส ที่ทำให้โรคตับอักเสบของคุณเอ็กซ์หายไป ได้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้

Cr.คุณเอ็กซ์ (เอกพล สงวนวงศ์ชัย)

       ******************************************************************************






#ไวรัสตับอักเสบบี #ค่าการทำงานตับผิดปกติ #ไขมันเกาะตับ #ไขมันในเลือด #ไตรกรีเซอร์ไรด์ #คลอเรสเตอร์รอล #ภูมิแพ้ #เบาหวาน #ความดันโลหิตสูง และต้องการปรับ #สมดุลย์ของร่างกาย ให้ "มากิพลัส" ช่วยได้ครับ ทานเองเห็นผลเองครับ ทานดีถึงกล้าบอกต่อ

ทานเอง เห็นผลเอง สุขภาพดีขึ้นมากๆครับ
จากการตรวจสุขภาพประจำปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 19/2/2558 ผลตรวจค่าการทำงานของเอ็นไซด์ตับผิดปกติ ทั้งค่า AST , ALT , ALP
AST ----------> 163
ALT ----------> 373
ALP ----------> 99
หมอให้ยามาทาน 3 เดือน และนัดไปตรวจซ้ำค่าผิดปกติลดลงนิดหน่อยแต่ยังไม่ปกติดี
ตัดสินใจปรึกษารุ่นน้องที่เคยโพสเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ "มากิพลัส" ซึ่งช่วยในเรื่องของการบำรุงรักษาตับ และช่วยให้เลือดสะอาด เดิมทีไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่นัก แต่ก็ตัดสินใจซื้อมาทานลองดู 2 ขวดแรก ทานเช้า 2 ช๊อต /เย็น 2 ช๊อต ทานได้อยู่ 2 เดือน กลับไปตรวจอีกครั้ง ผลตรวจที่ออกมา
AST ---------->38
ALT ----------->38
ALP -----------> 64
ซึ่งผลเป็นปกติทุกตัว ทำเอาผมและและคุณหมองงไปตามๆๆกัน คุณหมอถามใหญ่เลยว่าไปทำอะไรมา เพราะปกติเมื่อร่างกายคนเราเกิดภาวะตับอักเสบ จะต้องทานยาต่อเนื่องและใช้เวลานาน
ตอนนี้ซื้อมาทานประจำเลยครับ เห็นผลจริงๆๆ และนี่ผลตรวจสุขภาพล่าสุดเมื่อวันที่ 29/6/2559
AST ---------->37
ALT ----------->43
ALP -----------> 72
ซึ่งผลปกติดี และที่ดีมากไปกว่านั้น ค่าไขมันในเลือดทุกตัวเป็นปกติเช่นกันครับ รวมถึงระดับน้ำตาลในเลือด ระบบสุขภาพองค์รวมกลับมาปกติเหมือนเดิม สุดยอดมากๆๆๆๆ ขอบคุณ...มากิพลัส

cr.คุณทุวัน


******************************************************************************




      
         ******************************************************************************


           ******************************************************************************




            ****************************************************************************** ***************************************************************************************************************************************************



            ******************************************************************************




          ******************************************************************************


            ******************************************************************************

เมื่อสามเดือนที่แล้วแม่มีปัญหาสุขภาพมากทั้งเรื่องตับอักเสบ ไขมันคลอเลสเตอรอลสูง 259 (ปกติต้องน้อยกว่า200) ไขมันLDLสูง166 (ปกติต้องน้อยกว่า130) และมีปัญหาเรื่องไทรอยด์ TSH ต่ำมาก 0.046 L (ปกติค่าTSH 0.27-4.20) มีความเสี่ยง เป็น Hyperthyroidism (คอพอกเป็นพิษ) ซึ่งกลัวมากถ้าเป็นโรคนี้ เพื่อนแนะนำมากิพลัสให้แม่กิน ตอนแรก ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ แต่เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของ Unilever ก็เลยให้แม่ลองดู ไม่เสียหายอะไร แล้วก็พาแม่ไปตรวจเลือดไว้ เพื่อเช็คผลได้ว่าของมันดีขึ้นจริงๆ หรือเพื่อนโม้ (ตอนนั้นเมื่อ3เดือนที่แล้วคิดอย่างนั้นจริงๆ 555) พอแม่กินไปขวดกว่ารู้สึกว่าแม่หน้าใสขึ้น ตัวเราเองก็เลยกินตามแม่ (กลัวเค้าทักแม่ว่าเป็นน้องสาว) แล้วแนะนำน้องสะใภ้ซึ่งค่าเลือดเค้าต่ำ ให้ลองกินดู ปรากฏว่าเค้ากินไปขวดกว่าแล้ว ลองไปตรวจเลือดเพื่อบริจาคผ่าน น้องแอน(น้องสะใภ้)บอกว่าปกติทำยังไง ๆ ค่าเลือดก็ไม่เคยถึงเกณฑ์ 12.5 ที่สามารถบริจาคได้ แต่ครั้งนี้ได้ 13.3 สามารถให้เลือดคนอื่นได้ ส่วนตัวออยเองปกติจะไม่ค่อยแข็งแรง เข้าออกโรงพยาบาลจนประกันเบื่อเลยค่ะ ประมาณเดือนละครั้ง แต่หลังจากกินมากิพลัส ก็รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเลย (จนปัจจุบันยังคิดว่าไม่รู้เราอุปทานไปรึเปล่า555) แต่ถ้าใครมีปัญหาข้างต้นก็แนะนำมากิพลัสเลยค่ะ ผลเลือดข้างล่างของแม่ออยจริง(จารุณี แซ่ตัน)

       ******************************************************************************




มากิพลัส กับ #ไวรัสตับอักเสบบี ดีจริงๆค่ะ
🍷🍷สุดยอดมาก ดื่มเพียง11วัน บทพิสูจน์มากิพลัส
พี่สาวเป็นไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งคุณหมอนัดตรวจวันที่ 28 ก.ค.58 เห็นมีการโพสท์มากิพลัสเกี่ยวกับเลือดสะอาดตับแข็งแรง พี่สนใจ จึงแนะนำให้พี่ลองดื่ม

เมื่อวันที่18กค.58 โดยแนะนำให้ดื่มเช้า 2 ช็อต เย็น 2 ช็อต รวมเวลาดื่มได้11วัน ผลของตับที่ดื่มมากิพลัสเพียง11วัน
(ผลล่าสุด 3 ส.ค.58)
มิ.ย. ก.ค. **ส.ค.**
ค่า SGOT 285 146 40**
ค่า SGOT 370 212 48**



       ******************************************************************************

#icareishare
#ตับอักเสบ #ตัวเหลือง #ตาเหลือง
#มะเร็งเต้านม #เหนื่ิอยง่าย #เดินไม่ได้
#maquiplus
บอกถ่ายรูปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ออยหน่อย
ยิ้มหวานกันทั้งคู่เลย😆😆😆😆
คนสวยที่ยืนเป็นตับอักเสบ ตัวเหลือง
ตาเหลืองเหนื่อยง่าย

คนสวยที่นั่งเป็นมะเร็งเต้านม
เดินไม่ได้ลูกต้องดูแลใกล้ชิด และให้
ออกซิเจนตลอดเวลา

ตอนนี้ทั้งคู่แข็งแรงมาก คนยืนผิวชมพูเชียว
คนที่นั่งเดินไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว
คือมันดีมาก อยากแนะนำจริงจริง

Cr. คุณออย

************************************************************************

#icareishare
#โรคตับอ่อนอักเสบระยะสุดท้าย
#ประสบการณ์ส่วนบุคคล
ชื่อคุณเมธาวี วันแย้ม อาชีพรับราชการทหาร ป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบขั้นสุดท้าย หมอบอกว่าตับมันตายส่วนมาก
หลังจากผ่าตัดพักอยู่ทีโรงพยาบาลนานสองเดือน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แต่หมอก็ให้กลับบ้าน จึงได้แนะนำให้กินมากิพลัส จากเมื่อก่อนกินข้าวไม่ได้เลย ข้าวต้มก็กินไม่ได้แต่พอกินมากิพลัส 2-3วันแรก เริ่มกินข้าวได้ กินผลไม้ได้ ระบบขับถ่ายดีขึ้นจากเมื่อก่อนขับถ่ายยาก พอกินหมดขวดแรกทำให้กินข้าวได้เยอะขึ้นร่างกายสดชื่นกระปี้กระเปร่า ระบบย่อยอาหารดีขึ้นมากๆ ขอบคุณมากิพลัสครับ


 
          ***********************************************************************


 #icareishare #มากิพลัส #ตัวเหลือง #ตาเหลือง #ท้องแข็งแน่นท้อง#อ่อนเพลีย #ทานข้าวไม่ค่อยได้.
#ข่าวดีมีทุกวัน....นับจากวันที่ 27 พ.ค.59 จนวันนี้ 13 มิ.ย.59 เป็นเวลา 18 วันที่พี่แจ่ม ทาน มากิพลัส และไลฟ์เซนเชียล อาการท้องแข็งแน่นท้อง อ่อนเพลีย ตัวเหลือง ตาเหลือง ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สังเกตุที่สีหน้าพี่แจ่มสดใสขึ้น ทานข้าวได้มากขึ้น และที่ทำให้ขนลุก นั่นคือท้องที่เคยโตของพี่แจ่มลดขนาดลงและนิ่มขึ้นมาก พี่แจ่มบอกว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ ค่ะ
#ขอบคุณพี่แจ่มที่ให้ลงเรื่องราวเพื่อเป็ประโยชน์แก่ผู้อื่นค่ะ
ขอบคุณ ผลิตภัณฑ์ดีๆ ของ #UnileverNetwork
ที่มอบสุขภาพดีให้
พี่แจ่มค่ะ

  
   

******************************************************************************

 #icareishare #มากิพลัส
#ตับอักเสบ #นอนน้อย #เครียด
สุดยอดจริงๆ ก่อนหน้าค่าตับของตัวเองสูงมาก นอนน้อย เครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ ค่าตับสูงถึง 160 จนหมอบอกเสี่ยงเป็น #ตับอักเสบ ก็กินมากิมาเรื่อยๆ จนผลตรวจร่างกายล่าสุดเดือนที่แล้วค่าตับลดเหลือ 88 ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยป่วยเลยทั้งๆที่ทำงานหนักนอนดึกประจำจะกินมากิตลอดไปเลย เย่ๆ
Cr. คุณแป๊ะ วิศวกรออกแบบรถยนต์

      




************************************************************************

เฮ้ยนี้มัน”น้ำ”อะไร? หลายๆคนทำไมพูดถึงกันจัง! มันก็แค่น้ำผลไม้ธรรมดาจะดีอะไรกันนักกันหนา? คนโน้นก็ว่ากินแล้วนอนหลับดีขึ้น คนนี้ก็บอกว่าโรคเก๊าท์ดีขึ้น บางคนบอกว่า ทำให้เลือดสะอาด ตับแข็งแรง ก็ว่ากันไป!!! บางคนก็บอก”เบาหวาน”, ความดัน,ภูมิแพ้,ไมเกรนดีขึ้น ป้องกันโน้นนี่นั้นบ้างหละ ไอ้เราก็คิดในใจว่ามันดีขนาดนั้นเลยหรอ? ถ้าดีขนาดนั้นจริงๆไม่ต้องมงต้องมีมันแล้วมั้ง! “โรงพยาบาล” 5555555 ( มีขำนิดหน่อย ) เกิดอาการหมั่นใส่นิสนิดๆอิอิ!!! แต่ก็ทนไม่ไหวที่จะเอามาลองทานดู!!! เพราะได้ไปตรวจสุขภาพประจำปีได้รับโรคมา 1 โรคครับ คือ” โรคไวรัสตับอักเสบบี” ตายละสิเรา!!!พูดให้เขามาเยอะเลย สุดท้ายก็ต้องมาทานของเค้า ไหนๆก็ไหนขอลองทานก่อนแล้วกันว่ะ!!! เอาชีวิตไว้ก่อนแระกัน( พูดกับตัวเอง ) 555555555++ พอได้เอามาทาน 1 สัปดาห์ผ่านไปเอ้อ !!! มันดีของเขาจริงๆสัมผัสแรกที่รู้สึกได้คือนอนหลับดีขึ้น อาการปวดหัวลดลงแต่ก็ยังไม่แน่ใจ จึงทานต่อเนื่อง เช้า 2 ช็อท เย็น2 ช็อท 3 เดือนติดต่อกัน แล้วไปตรวจค่าตับอีกครั้ง เฮ้ยค่าตับดีขึ้นและหายเป็นปกติ พูดกับตัวเองดังๆว่า กูไม่ตายด้วยโรค”ตับ”แล้วโวย 555555555 หัวเราะ
อาการเป็นหวัดบ่อยๆ 2 วันหาย 3 วันเป็นก็ดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว สรุปคือ ทุกวันนี้ขาดเธอไม่ได้จริงๆ เธอคือส่วนหนึ่งของชีวิต!!! รักนะมากิพลัส
Cr ไพรวัลย์ วาสเสนะ

  ******************************************************************************
#icareishare
#ตับอักเสบ #ท้องบวม #ตาเหลือง #ตัวเหลือง#ทานไม่ได้
คุณป้าชูเอง อายุ 60 ปี เปิดร้านเสริมสวยยุ้ย และนวด อยู่ จ.นราธิวาส เป็นโรคตับอักเสบ มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องบวม อ่อนเพลีย ป่วยบ่อย นอนไม่หลับ กินไม่ค่อยได้ ดูแลตัวเองมาตลอด ออกกำลังกาย (ขี่จักรยาน เล่นโยคะ) และทานอาหารเสริมหลายตัวมาก แต่ก็ไม่ดีขึ้น ป้าว่าจะเลิกแล้ว 
จนมาเจอมากิพลัสในเฟสบุ๊ค ป้าบอกดูมา 2 วัน ขอลองมากิพลัสอีกซักครั้ง เลยตัดสินใจสั่ง 1 ลัง เพราะป้าโดนหลอกมาเยอะ หมดเงินไปหลายหมื่น ช่วงนั้น ป้านอนป่วยอยู่ 3 วัน ป้าเริ่มทานมากิพลัส ก่อนนอน วันที่ 20/1 ทานไป 4แก้ว ตื่นเช้าว่า ป้าบอกเหลือเชื่อมากๆ ป้าลุกขึ้นมาหุงข้าวได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาการแบบนี้ ต้องเข้ารพ. ให้น้ำ
เกลือแน่ๆ มันสุดยอด เหลือเชื่อมากๆ สดชื่นขึ้น อ่อนเพลียน้อยลง

วันที่ 23/1 ป้าบอกดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้ป้าจะนวดแล้ว (มากิพลัสหมดไป 1ขวด) ทุกวันนี้ป้าเจอใครไม่สบายป้าจะแนะนำให้ทานมากิพลัส บอกบุญ อยากให้เค้ามีสุขภาพที่ดี

ปัจจุบันเริ่มทานขวดที่ 5 ตัวไม่เหลือง ตาไม่เหลือง ท้องยุบแล้ว นอนหลับดี ทานข้าวได้ ขับถ่ายดีมาก ที่สำคัญมีแต่คนทัก ผิวสวย ผิวขาวขึ้น ฝ้าหายด้วยค่ะ ใครที่อยู่ 3 จังหวัด ไปหาป้าที่ร้านได้นะคะ ป้ายินดีให้คำแนะนำค่ะ


Cr.kampon 

******************************************************************************

#icareishare 
#ตับอักเสบ
#maquiplus
คุณณิชาภา พนักงานบริษัท ตรวจพบเป็นโรคตับอักเสบ วันที่ 6 พ.ค. ค่าตับ SGPTสูงถึง 1235 และค่า SGOT 456 จนคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้ทำอะไร ให้นอนอย่างเดียว และนัดดูอาการทุกอาทิตย์ แต่ต้องทำงานพอเห็นน้องที่ทำงานโพสต์เกี่ยวกับมากิพลัสดูแลตับและเลือด

จึงสอบถาม และสั่งซื้อมาทาน 2 ขวด เริ่มทาน 17 พ.ค. พอถึงเวลานัดคุณหมอบอกค่าตับดีขึ้นตามลำดับ และสั่งอีก 2 ขวดมาทาน และด้วยความอยากลองว่ามากิพลัสดีจริงหรือไม่ จึงหยุดยาหมอ ตั้งแต่ 6 มิ.ย. และทานมากิพลัสอย่างเดียว จนล่าสุด 4 ก.ค. คุณหมอนัดตรวจบอกค่าตับดีมาก เลือดเข้มข้นอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ค่าตับ
SGPT จาก 1235 เหลือ 19
SGOT จาก 456 เหลือ 16
ดีใจมากเลยคิดว่าจะทานต่อเนื่องและสั่งให้คุณแม่ทานด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่ และดูแลต้อกระจกที่แม่เป็นอยู่ค่ะ

Cr. คุณณิชาภา ขันกสิกรรม


************************************************************************

👉 ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ คลิก >>> บียอนด์ มากิ พลัส

👉 สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิก >>> สั่งซื้อออนไลน์

👉 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

📞 Call : 0646971979 หรือ 0830438575 (คุณธุ)

✔️ ​ADD Line 
https://line.me/ti/p/~tuwan_tae
https://line.me/ti/p/~tuwan_taetae
https://lin.ee/cblIGiZ

หรือ
Line ID : tuwan_tae
Line ID : tuwan_taetae



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น